เรียกได้ว่าโรคระบาด Covid-19 นี้ทำให้ธุรกิจการโรงแรม, การท่องเที่ยวและสายการบินต่างๆ ทั่วโลกบาดเจ็บสาหัสเป็นอย่างมากโดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ประสบปัญหาจากการล็อคดาวน์ต่างๆ ที่ผ่านมา ในวันนี้สถานการณ์ต่างๆ ค่อยๆ เริ่มมีการปรับตัวและดีขึ้นตามลำดับแต่ธุรกิจโรงแรมก็ต้องมีมาตรการรับมือและปรับตัวในหลายๆ ด้านเพื่อดึงดูดลูกค้านักท่องเที่ยวให้กลับมาใช้บริการกัน บทความนี้จะพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมในช่วงโรคระบาด Covid-19” ว่าเป็นอย่างไรบ้าง? ต้องมีการปรับตัวกันขนาดไหน มีการใช้กลยุทธ์ใดเพื่อฟื้นฟูธุรกิจกันบ้าง? วันนี้เราจะไปหาคำตอบกันครับ
ผลกระทบของโรคระบาด Covid-19 ต่อธุรกิจโรงแรม
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้รัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลกออกมาตรการปิดเมือง เพื่อควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกหดตัวเป็นประวัติการณ์ ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกลดลงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ผลกระทบจากการแพร่ระบาดรุนแรงและมีแนวโน้มยาวนาน เนื่องจากเรื่องของการพัฒนาวัคซีน ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพของการป้องกันเชื้อ การผลิตและแจกจ่าย ยังมีความไม่แน่นอนในช่วงนั้น (ปัจจุบันดีขึ้นมาก) ทำให้เกิดการลดพนักงานและลดแม้จะเริ่มผลิตและแจกจ่ายวัคซีนไปในหลายประเทศแล้ว แต่องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) แนะนำว่าการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd immunity) จำเป็นต้องมีการฉีดให้ครอบคลุม 65-70% ของจำนวนประชากร ซึ่งต้องใช้เวลาและงบประมาณมหาศาล เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้กลับมาได้อีกครั้งและทางธุรกิจโรงแรมต้องมีการปรับตัวเพื่อรับมือเพื่อป้องกันการระบาดให้สถานประกอบการณ์ต่างๆ สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะกลับมาในอนาคตครับ
มาตราการปรับตัวหลังโรคระบาด Covid-19 ต่อธุรกิจโรงแรมมีอะไรบ้าง?
●ส่วนของการเช็คอินและเช็คเอ้าท์
– ควรมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของลูกค้าและพนักงานทุกคนก่อนเข้าโรงแรม
– พนักงานต้องสวมหน้ากากอนามัยและถุงมืออยู่ตลอดเวลา
– ลูกค้าและพนักงานทุกคนจะต้องสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อลงทะเบียนผ่านแอพฯ ‘ไทยชนะ’
– ลูกค้าทุกท่านจะต้องกรอกประวัติสุขภาพและการเดินทาง
– มีบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ที่ทางเข้าและบริเวณพื้นที่สาธารณะภายในโรงแรม
– มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ กุญแจ/คีย์การ์ดห้องพัก ก่อนส่งให้ลูกค้าทุกครั้ง
– มีบริการชำระเงินแบบ E-payment
●ส่วนของห้องอาหาร
– บริการ QR เมนูอาหารออนไลน์ ทั้งในห้องอาหาร และ ภายในห้องพัก
– เว้นระยะในการจัดโต๊ะอาหาร
– ทำความสะอาด โต๊ะ เก้าอี้ และ สิ่งของต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
●ห้องพัก
– ห้องพักทุกห้องผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างละเอียดทุกครั้งหลังการเข้าพัก
– มีการล้างทำความสะอาดฟิลเตอร์เครื่องปรับอากาศภายในโรงแรมถี่ขึ้น
– จำกัดระยะเวลาเข้าทำความสะอาดระหว่างเข้าพัก และเว้นระยะห่างระหว่างบริการ
– การทำความสะอาดเน้นเป็นพิเศษในบริเวณที่มีการสัมผัสสูง รวมทั้งที่มือจับ รีโมทโทรทัศน์ สวิตช์ไฟ ฝารองนั่งชักโครก โต๊ะข้างเตียง ชั้นวางสัมภาระ และพื้น
●พนักงาน
– พนักงานทุกคน ผ่านการฝึกอบรมด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับ โควิด-19 รวมถึงขั้นตอนการสวมหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่ถูกต้อง และการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล
– พนักงานทุกคนก่อนปฎิบัติงานจะต้องตรวจวัดอุณหภูมิและล้างมือทุกครั้ง
●พื้นที่ส่วนกลาง
– แขกผู้เข้าพักทุกท่านและพนักงานโรงแรมจะต้องสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สวนกลาง
– เจลแอลกอฮอลล์ฆ่าเชื้อ สำหรับล้างมือวางไว้ตามจุดต่างๆ ในพื้นที่โรงแรม
– จำกัดจำนวนคนในพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อรักษาระยะห่าง
– ทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
– มีป้ายหรือสัญลักษณ์แสดง เพื่อเตือนให้ปฏิบัติตามกฏการรักษาระยะห่างทางสังคม เมื่อใช้บริการห้องอาหาร และบริเวณพื้นที่ส่วนกลางภายในโรงแรม
– วางป้ายเพื่อกำหนดแนวทางการเว้นระยะห่างตามจุดต่างๆในพื้นที่
ต้องมีใบรับรอง มาตรฐานท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) จากโครงการความร่วมมือของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
เป็นอย่างไรบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “ผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมในช่วงโรคระบาด” ที่เราได้หามาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความนี้ เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์และช่วยสร้างความเข้าใจกันมากขึ้นนะครับ